ถาม: โอเวอร์คล็อกคืออะไร?
ตอบ: การโอเวอร์คล็อกหมายถึงการกำหนดให้อุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ (CPUการ์ดแสดงผล ฯลฯ) ทำงานที่สัญญาณนาฬิกา ที่เร็วกว่า ที่ผู้ผลิตกำหนดไว้
ถาม: โปรเซสเซอร์ทํางานได้เร็วกว่าที่กําหนดไว้ได้ อย่างไร?
ตอบ: อุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ นั้นปกติ ผู้ผลิตจะปั๊มความเร็วโดยยังคงเหลือ พื้นที่หายใจเอาไว้ ให้CPUด้วย เผื่อไว้ สําหรับการลดประสิทธิภาพลงหลั งการใ ช้เป็น เวลานาน หรือการใช้งานในสภาวะเต็มขีด ฯลฯ ในบางครั้งบริษัท ผู้ผลิตสามารถพัฒนาปรับปรุงสายการผลิตได้ดี จนกระทั่งผลิตภัณฑ์ที่แย่ ที่สุดยังสามารถทํางานได้เร็วกว่าความเร็วตํ่าสุดที่บริษัทขาย หากบริษัทขายCPU ที่ความเร็วสูงตาม ที่CPUทําได้จริง ๆ ก็อาจทําให้เกิดการขาดแคลนCPU ความเร็วตํ่า และมีปริมาณ สินค้าของCPUความเร็วสูงมาก ล้นตลาด ส่งผลให้ราคาของCPU ความเร็วสูงลดตํ่าลง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ผู้ผลิตจึงต้องขาย CPU ระดับความเร็วปานกลางหรือแม้ แต่CPU ความเร็วสูง โดยปั๊มตราเป็นCPUความเร็วตํ่ า ทั้งนี้โดยปกติ แล้ว ชิ้นส่วนจะสามารถทำงานได้เร็วกว่า ที่บอกเอาไว้บนตัวกล่องกันทั้งนั้น
ถาม: เราสามารถ Overclock Athlon ได้หรือไม่?
ตอบ มีความเป็นไปได้ จากข้อมูลที่ปรากฎบ่งชี้ว่ากระบวนการผลิตของ AMD มีผลงานที่ดีมาก คุณภาพของCPUที่ผลิตได้ก็พัฒนาขึ้น ดังนั้น Athlon จึงเป็นโปรเซสเซอร์ที่มีความสามารถในการ Overclock ได้ดีมากรุ่นหนึ่ง จากข้อมูลที่มีการเผยแพร่ใน Usenet มีการเปิดเผยว่า Athlon ที่ผลิตในสัปดาห์ที่ 42 ปรากฎว่า AMD นำ Athlon 650 มาขายเป็น Athlon 500 เพราะแก่นของCPUถูกปั๊มความเร็วที่ 650 MHz และแคชที่ติตตั้งอยู่ก็เป็นรุ่นความเร็ว 3.3ns หรือ 3.1ns ซึ่งสามารถทำงานที่ 650 MHz ได้ ซึ่งจากที่เห็นดูเหมือนว่า AMD สามารถผลิต Athlon ได้ดีมาก จน Athlon ที่แย่ที่สุดจากโรงงาน AMD สามารถรันได้ที่ 650 MHz ได้สบาย
ถาม: เราจะโอเวอร์คล็อกCPU Athlon ได้อย่างไร?
ตอบ: เราสามารถโอเวอร์คล็อก Athlon ได้ด้วการปรับค่า Front Side Bus หรือปรับค่าตัวคูณสัญญาณของ CPU ข้อมูลเพิ่มเติมติดตามได้ในช่วงต่อไปของข้อมูลนี้
ถาม: การโอเวอร์คล็อกเกี่ยวข้องกับ FSB และตัวคูณสัญญาณอย่างไร?
ตอบ: อุปกรณ์หลายอย่างในคอมพิวเตอร์ยุคนี้ทํางานที่ความเร็วที่ต่างกันออกไป ในส่วนของ Athlon นั้นระบบบัสในส่วนที่ติดต่อ กับแรมจะทํ างานที่ 100 MHz โดยตัวโปรเซสเซอร์เองก็จะมีการกํ าหนดตัวคูณสัญญาณเอาไว้ ตัวอย่างเช่น Athlon 500 MHz จะถูกกําหนดตัวคูณสัญญาณเอาไว้ที่ 5X ซึ่งเมื่อนํา 5 มาคูณกับ 100 MHz ก็จะได้ความเ ร็ว 500 MHz ซึ่งหมาย ถึงตัวโปรเซสเซอร์จะทํางานที่สัญญาณนาฬิกาที่เร็วเป็น 5 เท่า ของความเร็วที่ตัวมันเองติดต่อกับส่วน อื่นของระบบ และเนื่องจากความเร็วของโปรเซสเซอร์ มีพื้นฐานอยู่ ที่ความเร็วบั สของระบบ การเพิ่มความเร็วบัส จึงเป็นการเพิ่มความเร็วของโปรเซสเซอร์ด้วย เช่น เมื่อเพิ่มความเร็วบัสเป็น 105 MHz ก็จะทำให้ Athlon 500 MHz ทํางานที่ 525 MHz เพราะเป็นการนําตัวคูณสัญญาณที่ 5.0 มาคูณกับ 105 MHz นั่ นเอง
ถาม: เราจะโอเวอร์คล็อกบัสของระบบได้หรือไม่ ?
ตอบ: ไม่ใช่เมนบอร์ดทุกรุ่นที่ จะสามารถปรับความเร็วบัสของระบบได้จนถึงตอนนี้ดู จะมีเพียงเมนบอร์ด Asus K7M เท่า นั้นที่สนับสนุนการปรับความ เร็วบัสได้ อย่างไรก็ตามหากมีเมนบอร์ดที่ถูกต้องผู้ใช้ก็สามารถปรับความเร็วบัสของระบบเพิ่มขึ้นได้ อย่างง่าย ๆ เพื่อรัน Athlon ในความเร็วที่เหนือกว่าที่ระบุ จากโรงงาน และหากได้ผลก็ จะ ทําได้งง่าย ๆ เพียงแค่การปรับแต่งค่าในไบออสเท่านั้น ผู้ใช้ควรทราบ ด้วยว่าการเพิ่มความเร็วระบบบัสก็อาจสร้างปัญหาตามมาได้เช่น กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรัน ที่ความเร็ว เหนือกว่าที่ออกแบบเอาไว้มาก อุปกรณ์อื่นเช่น การ์ด PCI จะใช้ความเร็ว บัสเป็นความเร็วอ้างอิง สําหรับความเร็วของตัวเองถ้า คุณโอเวอร์คล็อกความเร็วบัสของระบบก็เท่ากับคุณกําลัง โอเวอร์คล็อกอินเทอร์เฟส PCI รวมทั้งคอนโทรลเลอร์ฮาร์ดดิสค์ ซึ่งติดตั้งอยู่ภายในเมนบอร์ดด้วย และการ์ดและฮาร์ดดิสค์ บางตัวอาจจะอ่อนไหวกับความ เร็วบัสที่เพิ่มขึ้นมากกว่าบางตั ว สรุปก็คือถ้าคุณเพิ่มความเร็วขึ้นแล้วเริ่มพบปัญหา แสดงว่าอุปกรณ์บางตัวกำลังโอดครวญแล้ว คุณอาจสามารถตรวจสอบได้ว่าอุปกรณ์ ตัวใดที่เป็นปัญหา และก็ อาจจะเปลี่ยนเป็นตัวอื่นที่ไม่มีปัญหาได้ หรือไม่อย่าง นั้นก็ต้องลดความเร็วบัสลงมา ฮาร์ดดิสค์ บางตัวโดยเฉพาะ ที่เป็น interface แบบ IDE ในโหมด Ultra DMA อาจเกิดปัญหาการส่งข้อมูลผิดพลาดเมื่อปรับความเร็วบัสไปเร็วกว่า สเป็คมากจนเกินไป ผู้ใช้จึงควรระวังไว้ให้มาก
ถาม: ไหนบอกว่า Athlon มี ระบบบัสความเร็ว 200 MHz ไมใช่เหรอ?
ตอบ: จริงอยู่ที่ Athlon นั้นจะมีความเร็วบัสของระบบที่ 100 MHz แต่ เนื่องจาก Athlon นั้นใช้สถาปัตยกรรมแบบ EV6 ของ DEC Alpha ซึ่ ง มี ความ สามารถในการส่งข้อ มูลได้ทั้ง สัญญาณนาฬิกาขาขึ้ นและขาลง แบบเดียวกับระบบ บัส AGP ด้วยเหตุนี้ Athlon จึงสามารถรับ/ส่งข้อมูลได้ที่ความเร็ว 200 MHz แม้จะทำงานที่สัญญาณนาฬิกาเพียง 100 MHz
ถาม: การล็อคตัวคูณสัญญาณ มี ความเป็นมาอย่างไร?
ตอบ: CPU Athlon นั้นจะ ถูกล็อคตัวคูณ สัญญาณเอาไว้นั่นคือตัว CPU จะถูกกํ าหนดตัวคูณสัญญาณเอาไว้ตั้งแต่อยู่ ในโรงงานผลิต และตั้งใจจะไม่ให้เปลี่ยนได้ภายหลัง CPUตระกูล Pentium II, Pentium III และ Celeron ก็ถูกล็อคตัวคูณสัญญาณเอาไว้แล้วเช่นกัน อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่า ตัวคูณสัญญาณเป็นตัว กําหนดความเร็วของ Athlon ตัวคูณ สัญญาณที่ 5X เป็นของ Athlon 500 MHz ขณะ ที่ Athlon 750 MHz ก็ จะมีตัวคูณ สัญญาณที่ 7.5X ถ้าคุณสามารถเปลี่ยน ตัวคูณ สัญญาณได้ก็จะสามารถเปลี่ยนความเร็วของCPUได้ ในกรณี ของ Athlon ในสายการผลิต ปัจจุบันนั้นตัวคูณ สัญญาณจะกําหนดได้ ตั้งแต่ 5X ถึ ง 10.5X เพื่อให้ ได้ความเ ร็ว ตั้งแต่ 500 MHz ถึ ง 1050 MHz
ถาม: อย่างงั้นก็ Overclock เป็น 1050 MHz ก็จบแล้วใช่มั๊ย?
ตอบ: ใจเย็นก่อนครับ มันมีข้อจำกัดอยู่เหมือนกัน โปรเซสเซอร์แต่ละตัวนั้นจะมีความแตกต่างกันออกไป Athlon บางตัวอาจจะสามารถOverclock ไปได้ถึ ง 800 MHz ในขณะที่บางตัวอาจทำได้อย่างมากไม่เกิ น 600 MHz ขั้นตอนปกติ ก็คือให้เริ่มต้นจากการเพิ่มตัวคูณ สัญญาณขึ้นทีละขั้น (0.5X) แล้วทดสอบเรื่องของเสถียรภาพในการทำงาน เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่ง โปรเซสเซอร์ ที่Overclock เริ่มไม่มีเสถียรภาพ จากนั้นลดลงมาขั้นหนึ่ง ก็เป็นอันเรียบร้อย อย่าง ที่บอกไปแล้วข้างต้นว่ากระบวนการผลิตในโรงงานของ AMD นั้นค่อนข้างจะทำได้ดี แต่ก็ยังน่าสงสัยอยู่ว่าชิพในรุ่นปัจจุบันจะทำความเร็ วได้ ถึง 1050 MHz ได้หรือไม่ถ้าคุณลองดูก็อาจจะ ทำให้CPU ของคุณเสียหายถาวรไปเลยก็ได้
ถาม: ความเสี่ยงของการOverclockมีอะไรบ้าง?
ตอบ: การOverclockจะช่วยให้ได้ ประสิทธิภาพของCPUเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ หากไม่ระวังคุณก็อาจจะเปลี่ยนให้ CPU ตัวใหม่ ของคุณเป็น ที่ทับกระดาษได้ง่าย ๆ อย่างที่บอกไป ตั้งแต่ต้นว่าโปรเซสเซอร์ แต่ละตัวจะมีข้อจำกัดของตัวเอง คุณต้องรู้ว่าข้อจำกัดของ CPU ของคุณอยู่ตรงไหน ที่ต้องทำก็คือหาให้พบว่าความ เร็ว ที่ทำให้CPU ของคุณ ทำงานไม่มีเสถียรภาพอยู่ จุดไหนปรับลดOverclockลงมา ขั้นหนึ่ง เท่านี้ก็ปลอดภัยแล้ว และก็อย่าลืมว่าการเพิ่มแรงดันไฟของ CPU ขึ้นไปมากจนเกินเป็นจะทำให้CPUของคุณเสียหายถาวรได้ง่ายที่สุด เมื่อใดที่คุณ Overclock ส่วนประกอบในระบบของคุณ นั่นเท่ากับเป็นการสิ้นสุดการรับประกันสินค้าไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง นอกจากนี้คุณยังเสี่ยงต่อ การทำให้CPU เมนบอร์ดฮาร์ดดิสค์การ์ดแสดงผล และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องอื่น ๆ เสียหายไป ด้วยแถมยังอาจจะทำให้เกิดเพลิงไหม้เผาบ้าน คุณวอดไปทั้ง หลัง หรือความร้อนที่เกิดขึ้นทำให้ ไวรัสร้ายที่ซ่อนอยู่ลึกในบ้านคุณแพร่กระจายออกมา ส่งผลให้มนุษยชาติ สูญพันธุ์หรือไม่ อย่างมากคุณก็แค่มีปัญหาเครื่อง แฮงค์และต้องรีบูตเครื่องใหม่
ถาม: ทําไมต้องไปยุ่งกับแรงดันไฟของCPUด้วย?
ตอบ: โปรเซสเซอร์ Athlon ในสายการผลิต ปัจจุบันจะมีแรงดันไฟของ CPU อยู่ที่ 1.6 โวลท์ อย่างไรก็ ตามเมื่อ คุณ Overclock CPUคุณอาจจะตกอยู่ใน สถานการณ์ ที่CPUเกือบจะมีเสถียรภาพในความเร็วหนึ่ง แต่ไม่เสถียรเต็มที่วิธีหนึ่ง ที่จะช่วยเพิ่มเสถียรภาพของCPUได้ก็คือการเพิ่มแรงดันไฟของCPUเพิ่ม ขึ้นอีกเล็กน้อย แต่หากคุณเพิ่มแรงดันไฟมากเกินไป ก็อาจเสี่ยงต่อการทำให้CPUเสียหายถาวรได้คําแนะนํา ก็คือให้เพิ่มแรงดันไฟของCPUไปไม่เกิน 0.15 โวลท์ หรื อ เพิ่มจาก 1.6 โวลท์ เป็น 1.75 โวลท์ นั่นเองแต่จำไว้ว่าทุกสิ่งที่คุณทำคุณเองต้องเป็นผู้รับผิดชอบผล ที่จะตามมา
ถาม: เอาล่ะ ทีนี้ผมจะเปลี่ยนตัวคูณสัญญาณได้ยังไง?
ตอบ: มีอยู่หลายวิธี คุณอาจเปลี่ยนตัวคูณสัญญาณได้ด้วยการเข้าไปเปลี่ยนรีซีสเตอร์บนแผงวงจรของ CPU Athlon โดยตรงเลย (อ่านข้อมูลได้จากวารสาร Computer User ฉบับที่ 70) หรือซื้อหรือปรับแต่งเพิ่มอุปกรณ์ DIP Switch ให้กับ Athlon หรือไม่ก็ ซื้อหรือทำการ์ด Overclock ( รู้จักกันในนามว่า Golden Fingers จะพูดถึงอีกครั้ง)
ถาม: การเปลี่ยนรีซีสเตอร์ของ Athlon เกี่ยวกับการโอเวอร์คล็อกยังไง?
- ตอบ: การOverclock Athlon ด้วยวิธีเปลี่ยนรีซีสเตอร์ นั้นได้รับการนําเสนอข้อมูลจากเว็บไซต์ www.tomshardware.com โดย Tom Pabst ซึ่งได้ เปิดเผยข้อมูลโดยละเอียดถึงวิธีเซ็ตตัวคูณ สัญญาณแรงดันไฟของ Athlon ด้วยการปรับเปลี่ยนตําแหน่งรีซีสเตอร์ ที่ติดตั้งอยู่บนแผงวงจร Athlon ด้วยการเชื่อมรีซีสเตอร์ใหม่หรือถอดรีซิสเตอร์ เก่าบนแผงวงจรออกก็จะเป็นการเปลี่ยน ค่าเหล่านี้ไปซึ่งผู้ใช้สามารถใช้วิธีการนี้ในการ ทำให้ Athlon ทำงานที่ ความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่สูง ขึ้นได้รวมทั้งการเปลี่ยนรีซิสเตอร์แรงดันไฟ ก็จะช่วยเพิ่มแรงดันไฟเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับCPUเหมือน ที่บอกไป ข้างต้นได้ด้วย
ถาม: ข้อได้เปรียบของการเปลี่ยนรีซีสเตอร์คืออะไร?
ตอบ: ข้อได้เปรียบหลักของการเปลี่ยนรีซีสเตอร์ ก็คือวิธีนี้จะช่วยให้คุณควบคุมทุกแง่มุมในการ Overclock Athlon ได้ตามความต้องการของคุณตั้ง แต่การเปลี่ยนตัวคูณสัญญาณ การเปลี่ยนค่าแรงดันไฟและแม้แต่การเปลี่ยนตัวหารความเร็วแคชแบบ L2 และเมื่อทำเสร็จแล้ว (และทำอย่างถูกต้อง และเรียบร้อย) การเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่ทำให้CPUอ่อนแอลงไปกว่าเดิมแต่อย่างใดCPUก็จะทำงานได้เหมือน ที่ออกจากโรงงาน
ถาม: จุดอ่อนของการเปลี่ยนรีซีสเตอร์ คืออะไร?
ตอบ: การเปลี่ยนรีซีสเตอร์ มีจุดอ่อนหลายอย่างเหมือนกันรีซีสเตอร์ นั้นจะมีขนาดเล็กมากและจำเป็นต้องใช้ทักษะอย่างสูงในการบัดกรีเชื่อม หรือเอา อุปกรณ์ เหล่านี้ออกโดยไม่ทำให้แผงวงจรเสียหายซึ่งก็จะเป็นการเปลี่ยนCPUให้กลายเป็นอุปกรณ์ไร้ค่า การเปลี่ยนตัวคูณ สัญญาณของ Athlon จะเกี่ยวข้องกับการบัดกรีรีซีสเตอร์ 12 ตัว และหากต้องการเปลี่ยนแรงดั นไฟด้วย ก็ต้องเพิ่มเข้าไปอีก 4 ตั ว ที่คุณต้องแก้ไข ไม่ใชแค่นั้นการเปลี่ยนแค่ครั้งเดียวอาจจะไม่พอ เพราะการOverclockนั้นเป็นศาสตร์ อย่างหนึ่งอย่างที่ได้บอกไปแล้ว เดิมนั้นวิธีที่แนะนํากันก็ คือการOverclockไปทีละขั้นเล็ก ๆ โดยเริ่มOverclock ไปทีละขั้นจนถึงขั้นที่CPUทำงานได้ไม่มีเสถียรภาพจากนั้นก็อาจ จะลองเพิ่มแรงดันไฟดู ว่าจะช่วยให้CPUทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ลดแรงดันไฟลงมาเป็นปกติแล้วลดการโอเวอร์คล็อกลงมาจนถึง ขั้นที่ดีที่สุดที่ทำได้โดยที่CPUยังมีเสถียรภาพอยู่ วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีแน่ถ้าคุณใช้การOverclockด้วยการเปลี่ยนจัมเปอร์ หรือ DIP Switch หรือเปลี่ยนค่าในไบออสแต่การเปลี่ยนค่าด้วยการบัดกรีรี ซึสเตอร์ ไปมาหลายครั้งและเสี่ยงกับการทำให้CPUราคาหมื่นกว่าบาทกลายเป็นเศษขยะ ดูจะไม่น่าพิศมัยเท่าไหร่
ถาม: การ Overclock ด้วย DIP Switch ของ Athlon คืออะไร?
ตอบ: การOverclockด้วยการใช้ DIP Switch นั้ นเป็นการลด ขั้นตอนน่าปวดหัวของการเปลี่ยนรีซิสเตอร์ลงไปได้ โดยเป็นวิธีที่มีการเผยแพร่กันในอิน เทอร์เน็ตภายหลังการเผยแพร่ วิธีการOverclockด้วยการเปลี่ยนรี ซีสเตอร์ ในบางแง่มุมแล้ววิธีการนี้ เป็นวิวัฒนาการของการเปลี่ยนรีซีสเตอร์นั่นเอง หน้าตาของอุปกรณ์ การโอเวอร์คล็อก Athlon ด้วยการใช้ DIP Switch ซึ่งจะเชื่อมสายสัญญาณไป ที่ตําแหน่งของรี ซึสเตอร์การโอเวอร์คล็อก ทำได้ด้วยการเปลี่ยนตําแหน่งของ DIP Switch โดยไม่ต้องเสี่ยง กับการต้องบัดกรีใหม่ไปมาหลายครั้ง ซึ่งอาจทำให้CPUเสียหายถาวรได้ แทนที่จะบัดกรีเปลี่ยนรีซีสเตอร์ บนตัวแผงวงจรโดยตรงรีซีสเตอร์ทั้งหมด จะถูกถอดออกแล้วแทนที่ด้วยสาย สัญญาณซึ่งบัดกรีเชื่อมเข้ากับแต่ละขาของจุดเชื่อมรีซีสเตอร์สายสัญญาณนี้ ก็จะต่ออยู่กับ DIP Switch ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นรีซีสเตอร์ในตัว หลังจากที่ติดตั้งอุปกรณ์ เหล่านี้เรียบร้อยแล้วเมื่อผู้ใช้ปรับตําแหน่ง DIP Switch ก็จะเท่ากับเป็นการเปลี่ยนตําแหน่งของรีซีสเตอร์ บนแผงวงจรนั่น เองด้วยวิธีนี้ผู้ใช้จึงสามารถเปลี่ยนค่าตัวคูณสัญญาณแรงดันไฟ และตัวหารค่าความเร็วแคชแบบ L2 ด้วยการปรับเปลี่ยน DIP Switch นั่นเอง
ถาม: จุดอ่อนของวิธีการใช้ DIP Switch คืออะไร?
ตอบ: การOverclockด้วย วิธีการติดตั้ง DIP Switch นั้นก็มีจุดอ่อนอยู่ด้วยเช่นกันที่ชัดเจนที่สุดก็คือการรับประกันจะขาดในทันทีที่คุณทำการติดตั้ ง DIP Switch ลงไปบนตัวCPUอีก ปัญหาที่จะพบก็คือตัวCPUจะอ่อนไหวและอ่อนแอมากกว่า เพราะหากคุณพลาดท่าทำให้สายสัญญาณเหล่านี้เสียหาย เช่นติดตั้งการ์ดแสดงผลแล้วการ์ดไปเกี่ยวถูกสายสัญญาณ หรือมือไปเกี่ยวถูกสายจนหลุดออกCPUคุณก็ อาจจะจากลาคุณไปได้ในทันที
ถาม: วิธีการโอเวอร์คล็อก ด้วยการใช้ DIP Switch ยากไหม?
ตอบ: ถ้าดูจากรูปอาจจะเห็นว่าง่ายกว่าการบัดกรีรีซี สเตอร์ แต่จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่เห็นเพราะคุณต้องทำการบัดกรีสายสัญญาณกว่า 32 เส้นเพื่อควบคุมการเปลี่ยนแปลงค่าตัวคูณ สัญญาณและแรงดันไฟ ซึ่งมีตําแหน่งรีซีสเตอร์อยู่ถึง 32 ตําแหน่งและหากต้องการจะควบคุมค่าตัวหารความ เร็วแคชแบบ L2 ด้วย ก็ต้องบัดกรีเพิ่มอีก ยังโชคดี ที่ปัจจุบันมีคนรับจ้างทำหน้าที่นี้ แทนคุณโดยมีค่าใช้จ่ายราว 125 ดอลล่าร์ (ประมาณ 5,000 บาท) ที่คุณต้องทำคือส่งCPUใหม่ไปให้แล้ว เขาก็จะทำหน้าที่บัดกรีอุปกรณ์ติดเข้าไปให้คุณแล้วส่งกลับมา อย่างไรก็ตามหากCPUที่ได้มามีความสามารถในการOverclockได้ตํ่า ก็ถื อเป็นโชตร้ายของคุณเพราะที่ยังน่าห่วงก็ตรงที่ไม่รู้ว่าเมื่อทำการเชื่อมอุปกรณ์ DIP Switch เข้าไปในตัวCPUแล้ว เราจะสามารถทำให้CPUกลับไปอยู่ ในสภาพเดิ มด้วยการนํา รี ซีสเตอร์ทั้งหมดกลับมาบัดกรีเชื่อมติดเข้าไปเหมือนเดิ ม ให้ไม่รู้ว่าCPUตัวนี้ถูกแก้ไขได้หรือไม่ ซึ่งก็จะทำให้การแอบส่งCPUกลับไปเปลี่ยนเพื่อหวังจะให้ได้ ตัวใหม่ที่จะOverclockได้ ดีกว่าเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ แต่อย่างน้อยจาก ที่ได้รับทราบข้อมูล นั้น Athlon 500 MHz ที่มีอยู่ในท้องตลาดนั้นอย่างน้อยสามารถทำความเร็วได้ถึ ง 600 MHz กันแทบทั้ง นั้น และแม้วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ดีกว่าการแก้ไขเปลี่ยนตําแหน่งรีซีสเตอร์ โดยตรงแต่ก็ยังห่างไกลวิธีในอุดมคติ
ถาม: การ์ด Golden Fingers คืออะไร?
ตอบ: การ์ด Golden Fingers ก็คือวิธีการหนึ่งในการOverclockCPU Athlon ซึ่งเปิดเผย ข้อมูลครั้งแรกในเว็บไซต์ของ Tom Pabst และดูจะเป็นวิ ธี ที่ดีที่สุดในการOverclock Athlon เท่าที่มีการเปิดเผยข้อมูลกันมาจนถึงตอนนี้ การ์ด Golden Fingers จะช่วยให้คุณสามารถOverclock Athlon ได้โดยไม่จำเป็นต้องไปยุ่งเกี่ยวกับการบัดกรีอะไรเลย เพียงแค่เสียบการ์ดลงไปบนตัวซี พียู Athlon แล้วก็ปรับสวิทช์ไปมาเท่านี้ก็เรียบร้อย
ถาม: การ์ด Golden Fingers ไปเสียบตรงไหนของ Athlon?
ตอบ: CPU Athlon จะผลิตขึ้นโดยจะมีหัวต่ออยู่บริเวณขอบบนของแผงวงจรการ์ด Golden Fingers จะสามารถนําเข้ามาเสียบเข้ากับหัวต่อนี้ได้ พอดี ซึ่งจะทำให้ Golden Fingers มีการควบคุมเหนือรีซีสเตอร์ที่อยู่บนตัวCPUทันทีด้วยเหตุนี้ผู้ใช้จึงสามารถใช้ DIP Switch ที่อยู่บนตัวการ์ด Golden Fingers ในการควบคุมการปรับค่าตัวคูณ สัญญาณและแรงดันไฟได้ แต่จะไม่สามารถควบคุมค่าตัวหารความเร็วแคชแบบ L2 ได้ และเนื่องจาก Athlon นั้นจะออกจำหน่ายโดย มีฝาครอบพลาสติกครอบ ตัวแผงวงจรอยู่ (รวมทั้งครอบหัวต่อที่ว่านี้ด้วย) การจะนําการ์ดGolden Fingers มาเสียบบนตัว CPU ได้จึงต้องมีการแกะพลาสติกที่ครอบตัว CPU อยู่ออกเสียก่อนซึ่งการแกะฝาครอบนี้จะต้องมีการหักขาที่ยึดตัวฝาครอบเข้าไว้ด้วยกันด้วย ภาพบนคือตําแหน่งที่ใช้เสียบการ์ด Golden Fingers ภาพล่างเป็นหน้าตาของการ์ด Golden Fingers ที่ใช้ควบคุมการOverclock Athlon โดยไม่ต้องบัดกรี อุปกรณ์ ให้เสี่ยงที่จะทำให้CPU Athlon เสียหายอย่างถาวร
faq2
ถาม: แล้วการ์ดGolden Fingers ราคาเท่าไหร่?
ตอบ: การ์ด Golden Fingers นั้นราคาจะถูกกว่าการติดตั้ง DIP Switch ลงบนตัวCPUเสียอีก เพราะเท่า ที่พบในinternet มีการขายการ์ด Golden Fingers กันที่ ประมาณ 75 ดอลล่าร์ (ประมาณ 3,000 บาท เทียบกับการติดตั้ง DIP Switch ที่มีค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000 บาท) ไม่ใช่แค่นั้นตัว CPU ยังสามารถนําไปเปลี่ยนได้ง่ายกว่าด้วย ถ้าไม่นับเรื่องที่ต้องแกะฝาครอบพลาสติกออกเพื่อติดตั้งการ์ด เพราะแค่ถอดการ์ด Golden Fingers ออกจากตัวCPU CPU Athlon ตัวนั้นก็จะกลับมาทำงานที่ความเร็วสัญญาณนาฬิกาตาม ค่ามาตรฐานโรงงานได้ทันที
ถาม: จุดอ่อนของการใช้การ์ดGolden Fingers คืออะไร?
ตอบ: จุดอ่อนประการแรกและประการที่เข้ามาในความคิดทันที ก็ คือการที่ผู้ใช้ไม่สามารถเปลี่ยนค่าตัวหารความเร็วแคชแบบ L2 ได้ซึ่งอาจ ทำให้การโอเวอร์คล็อกประสบความสําเร็จน้อยลง อย่างไรก็ตามมีการพูดคุยกันว่าค่าตัวหารความเร็วแคชแบบ L2 นั้นสามารถปรับเปลี่ยน ได้ด้วยการเซ็ตค่าในเมนบอร์ด ค่าตัวหารความเร็วแคชแบบ L2 ของ Athlon จะอยู่ที่ 2 ซึ่งจะทำให้ Athlon มีแคชแบบ L2 ที่ทำงาน ที่ครึ่งหนึ่งของ สัญญาณนาฬิกาของCPUเช่น Athlon 500 MHz จะ มี ความเร็ วแคช L2 อยู่ ที่ 250 MHz Athlon 550 MHz มีความเร็วแคช L2 อยู่ ที่ 275 MHz และ Athlon 600 MHz มี แคช L2 ทำงานที่ 300 MHz เป็นต้น Athlon ความเร็ว 500-750 MHz นั้นจะมีค่าตัวหารที่ 2 อย่างที่ระบุไว้ข้างต้น แต่ Athlon 800 MHz ขึ้นไปจะมีค่าตั วหารอยู่ที่3 ซึ่งจะทำให้แคช L2 ของ Athlon ที่ความเร็ว 800 MHz ขึ้นไป ทำงานที่ ความเร็วห นึ่งในสามของความเร็ ว CPU เช่น Athlon 800 MHz มีแคช L2 ทำงาน ที่ 266 MHz, Athlon 850 MHz มีแคช L2 ทำงานที่ 283 MHz เป็นต้น ที่ ต้องให้ Athlon ความเร็ ว 800 MHz ขึ้นไปมีค่าตัวหารความเร็ วแคชเพิ่มขึ้นก็ เพราะ แคชแบบ L2 ของ Athlon นั้น ยังไม่สามารถรันที่สัญญาณ นาฬิกาสูงเกินกว่า 375 MHz ได้ซึ่งหากยังคงเซ็ต ค่าตัวหารความเร็วแคชของ Athlon 800 MHz ที่ 2 จะทำให้แคช ทำงาน ที่ ความเร็ว 400 MHz ซึ่ง เร็วเกินกว่าที่ แคชจะรับไหว ส่งผลให้ CPU ทำงานผิดพลาด
ถาม: ถ้าการโอเวอร์คล็อก Athlon ยุ่งยากอย่างนี้ ซื้อCPU ของ อินเทลมาใช้ไม่ดีกว่าหรือ?
ตอบ: ในตอนนี้การเลือกซื้อ Athlon แทน CPU Pentium III ดูจะน่าสนใจกว่า อันดับแรก ที่สัญญาณนาฬิกาที่เท่า ๆ กั น Athlon จะเร็วกว่า Pentium III ไม่ว่าจะทดสอบด้วยโปรแกรมอะไร ซึ่งข้อมูลตรงจุดนี้ปรากฏว่าเว็บไซต์ทั่วโลกเห็นพ้องตรงกันหมด อันดับที่ สอง ที่สัญญาณนาฬิกาที่เท่า ๆ กัน Athlon จะมีราคาถูกกว่า Pentium III อยู่พอสมควร ในบางรุ่นนั้นยังถูกกว่า Pentium III ที่สัญญาณ นาฬิกาต่ำกว่า อันดับที่สามแม้การเปลี่ยนค่าตัวคูณสัญญาณของ Athlon ดูจะยุ่งยากซับซ้อนแต่หากหันไปมองCPUของ อิ นเทล ก็จะพบว่าจนถึงตอนนี้แม้แต่คน ในบริษัท อินเทลเองก็ คงจะไม่ทราบ ว่า CPU ของอิ นเทลนั้นล็อคค่าตัวคูณสัญญาณเอาไว้อย่างไร อย่าว่าแต่คิดจะเปลี่ยนเลย ดังนั้นด้วยCPU ของอินเทล สิ่งเดียวที่คุณจะทำได้คือเปลี่ยนความเร็ว FSB ซึ่งดูจะน่าสนใจน้อยกว่า Athlon อยู่หน่อย สุดท้ายพูดไปแล้ว Athlon ดู จะมีความสามารถในการ Overclock ในระดับที่เหนือกว่า CPU Pentium III Coppermine ของอินเทล เพราะ AMD นั้นพัฒนาชิพ Athlon ขึ้นโดย มีความตั้งใจจะให้สามารถรันได้ที่สัญญาณนาฬิกาที่เร็วมาก ๆ อยู่แล้ว ซึ่ง AMD ก็ทำได้สําเร็จจริง ๆ เพราะจำนวนผู้คน ที่สามารถOverclock Athlon 500 MHz ไปจนถึงระดั บ 800 MHz ใน internet ตอนนี้ก็ดู จะมีจำนวนไม่ใช่น้อยแถมยังมีข่าวลือเรื่องการระบาย ความร้อนด้วยของเหลวที่ ทำให้ Athlon 500 ทำงานที่ 912 MHz ได้ เข้ามาให้ได้ยินอีก ในขณะที่ ซี พียู Pentium III Coppermine นั้นสร้าง จากแกนของ Pentium II ซึ่งมีการพูดคุยกันในinternetกันว่าตอนนี้สถาปัตยกรรมนี้มาถึงขีดสุดของความเร็วของตัวเองแล้ว ทำให้ทุกวันนี้แม้แต่ จะหา Pentium III Coppermine ที่ ความเร็วมาตรฐานจากโรงงานยังหาซื้อไม่ค่อยได้เลย เพราะอินเทลผลิต ชิพ Pentium II Coppermine ที่ความเร็วสูงได้น้อยมาก เพราะสถาปัตยกรรมของชิพนั้นไปไม่ไหวแล้ว
ถาม: การระบายความร้อนใหั กับ Athlon เมื่อโอเวอร์คล็อกแล้ว สําคัญแค่ไหน?
ตอบ: CPUใหม่ ๆ นั้นการระบายความร้อนเป็นเรื่องสำคัญมาก AMD นั้นจะวางตลาด Athlon โดยจะมีอุปกรณ์ ระบายความร้อน คือฮีทซิงค์ ที่ติดตั้งพัดลมเอาไว้เตรียมมาให้ การOverclock นั้นจะ ทำให้ CPUต้องการการระบายความ ร้อน ที่ดีขึ้นยิ่ง ฮีทซิงค์ถ่ายความร้อนจาก CPU ได้มากเท่าไหร่ CPU ก็จะเ ย็ นลงเท่านั้นซึ่งก็จะทำให้ CPU สามารถ ทำงานได้ด้วยความเร็วสูงขึ้นได้โดยไม่มีปัญหา แต่ต้องอย่าลื มเรื่องการระบาย ความร้อนที่อยู่ภายในเคสคอมพิวเตอร์ ด้วยเพราะมีผลกับอุณหภูมิของ CPU ด้วยเช่นกัน
ถาม: งั้นเวลาซื้อฮีทซิงค์ ควรดูอะไร?
ตอบ: AMD มีรายงานฮีทซิงค์ ที่ AMD แนะนําเอาไว้ ที่ http://www1.amd.com/products/athlon/thermals
ถาม: เราจะทดสอบเสถียรภาพของ CPU ที่ Overclockได้อย่างไร?
ตอบ: โดยปกติ ก็จะใช้วิธีรันโปรแกรมที่ต้องอาศัยการทำงานของCPUหนัก ๆ เป็นเวลานานเพื่อดูว่า CPU ที่ Overclock สามารถทำงานได้ ราบรื่นหรือไม่ หากเครื่องใดที่ต้องระมัดระวังเรื่องเสถียรภาพมากเป็นพิเศษ ก็อาจะต้องมีการรันโปรแกรมทดสอบ กันข้ามคืนเพื่อดูผลเรื่อง ความร้อน การแฮงค ฯลฯ ด้วย วิธีง่าย ๆ ในการทดสอบสําหรับผู้ใช้ทั่วไปก็คือ เรียกเกม Quake 2 ขึ้นมา จาก นั้นสั่งให้เกมทำการรันตัวอย่างเกมวนรอบไปเรื่อย ๆ เป็น เวลาหลายชั่วโมง ถ้าอยากจะให้แน่ใจว่าอาการแฮงค์เกิดขึ้นที่CPUไม่ใช่ที่การ์ด 3D ก็ให้สั่งให้โปรแกรมทำการเรนเดอร์ภาพด้วยซอฟต์แวร์ คอยจับตาดูระบบเอาไว้ ตั้งแต่ตอนแรก ๆ เมื่อทดสอบการทำงาน เพราะถ้าคุณ Overclock CPU เกินขีดจำกัดของมันโปรแกรมทดสอบก็ จะมีอาการผิดปกติให้เห็นคุณจะได้รีบปิดเครื่องก่อนที่CPUจะเสียหายจริง ๆ